เมื่อพูดถึง “ หวยใต้ดิน ” คนไทยหลายคนคงคุ้นเคยหรือเคยได้ยินชื่ออยู่บ่อยครั้ง เพราะเป็นหนึ่งในกิจกรรมเสี่ยงโชคยอดนิยมคู่บ้านคู่เมืองไทยมานาน แม้จะเป็นการเล่นที่ไม่ถูกกฎหมาย แต่ก็ยังแพร่หลายและมีรูปแบบที่หลากหลายในชุมชนหรือแม้แต่ในช่องทางออนไลน์ บทความนี้จะพาคุณไปทำความรู้จักว่า “หวยใต้ดิน” คืออะไร มีวิธีการเล่นอย่างไร และสาเหตุที่ทำให้ได้รับความนิยมเรื่อยมา
ความหมายของ หวยใต้ดิน
- การเล่นหวยแบบไม่ถูกกฎหมาย
- “หวยใต้ดิน” ตามนิยามทั่วไป หมายถึง การแทงเลขท้ายสองตัวหรือสามตัว (เป็นต้น) โดยอ้างอิงผลรางวัลจากสลากกินแบ่งรัฐบาล (หวยรัฐบาล) แต่ผู้เล่นมิได้ซื้อสลากอย่างถูกต้อง และไม่มีการเสียภาษีหรือเงินเข้ารัฐตามกฎหมาย
- ผู้รับแทงจะเป็นเจ้ามือเอกชนหรือ “เจ้ามือหวย” ที่ดำเนินการอย่างไม่เป็นทางการ ซึ่งอาจอยู่ในชุมชนหรือตามช่องทางส่วนตัว
- ลักษณะและรูปแบบที่หลากหลาย
- วิธีการเล่นหวยใต้ดินมักคล้ายการเล่นหวยรัฐบาล กล่าวคือ ผู้เล่นเลือกเลข 2 ตัว 3 ตัว หรือเลขวิ่ง ฯลฯ แล้วระบุยอดเงินเดิมพัน
- ราคาจ่าย (อัตราต่อรอง) จะกำหนดโดยเจ้ามือเป็นหลัก ไม่ได้มีมาตรฐานเหมือนสลากกินแบ่งรัฐบาล
- ไม่ผ่านการควบคุมโดยรัฐ
- เนื่องจากเป็นการดำเนินการนอกระบบกฎหมาย ผู้เล่นและเจ้ามือจึงไม่มีการคุ้มครองทางกฎหมาย
- หากเกิดปัญหา เช่น เจ้ามือหนีไม่จ่ายเงิน ผู้เล่นไม่สามารถยื่นร้องเรียนตามกฎหมายได้เหมือนการลงทุนประเภทอื่น
เล่นอย่างไร
- เลือกเลขที่ต้องการ
- ผู้เล่นสามารถเลือกเลข 2 ตัว 3 ตัว เลขโต๊ด-เต็ง หรือเลขวิ่ง ฯลฯ ตามกติกาที่เจ้ามือกำหนด
- ไม่มีข้อจำกัดด้านเลขอั้นเท่ากับสลากรัฐบาล เพียงแต่บางครั้งเจ้ามืออาจกำหนด “เลขอั้น” หรือ “เลขเต็ม” เมื่อมีคนแทงเยอะเกินไป
- กำหนดจำนวนเงินแทง
- ผู้เล่นระบุจำนวนเงินที่ต้องการลงเดิมพัน เช่น แทงเลขสองตัวท้าย 50 บาท หรือเลขสามตัวเต็ง 100 บาท เป็นต้น
- เจ้ามือจะคำนวณยอดจ่ายตาม “อัตราต่อรอง” ที่ตั้งไว้ หากผู้เล่นถูกรางวัล
- รอผลการออกรางวัล
- ผลของหวยใต้ดินจะยึดตามเลขท้ายจากสลากกินแบ่งรัฐบาล
- เมื่อประกาศผลเรียบร้อย หากถูกรางวัล ผู้เล่นจะได้รับเงินตามอัตราจ่ายที่ตกลงไว้ เช่น บาทละ 60, 70 หรือ 90 ขึ้นอยู่กับเจ้ามือ
- รับเงินรางวัลจากเจ้ามือ
- ผู้เล่นที่ถูกรางวัลต้องแจ้งเลขและยอดเงินให้ตรงกับที่ลงเดิมพันไว้ พร้อมหลักฐาน (เช่น สลิปหรือโพย) เพื่อขอรับเงิน
- ในทางปฏิบัติส่วนใหญ่จะติดต่อเจ้ามือผ่านโทรศัพท์, ไลน์, หรือระบบออนไลน์แบบลับ ๆ
หวยใต้ดินมีกี่ประเภท อะไรบ้าง
การเล่นหวยใต้ดินโดยทั่วไปจะอ้างอิงผลรางวัลจาก สลากกินแบ่งรัฐบาล ซึ่งออกทุกวันที่ 1 และ 16 ของเดือน (ยกเว้นบางกรณีเลื่อนวัน) โดยเจ้ามือหวยใต้ดินจะนำเลขท้ายสลากมาใช้เป็นเกณฑ์การจ่ายเงินให้ผู้ที่เดิมพันถูกต้อง และจะมีการแบ่งประเภทต่าง ๆ ตาม “ตำแหน่ง” และ “ลักษณะการแทง” ซึ่งที่นิยมและคุ้นเคยกันมีดังนี้
1. 3 ตัวบน (เต็ง/ตรง)
- 3 ตัวบนเต็ง: ผู้เล่นต้องระบุตัวเลข 3 หลักให้ตรงกับผล 3 ตัวท้าย ของรางวัลที่ 1 (หวยรัฐบาล) แบบตรงตำแหน่งทุกหลัก
- ตัวอย่าง: หากรางวัลที่ 1 ออก 123456 เลข 3 ตัวบนเต็ง = 456
2. 3 ตัวโต๊ด
- คล้าย 3 ตัวบน แต่สามารถสลับตำแหน่งได้
- ตัวอย่าง: หากเลขบนคือ 456 แล้วแทงโต๊ด เลข 465, 546, 564, 645, 654 ก็ถือว่าถูกรางวัล
3. 2 ตัวบน
- ดูเลข 2 ตัวท้าย จากเลข 3 ตัวบน (ท้ายรางวัลที่ 1)
- ตัวอย่าง: หากรางวัลที่ 1 ออก 123456 เลข 2 ตัวบน = 56
4. 2 ตัวล่าง
- ดูเลข 2 ตัวท้าย จากรางวัลเลขท้าย 2 ตัว (ของหวยรัฐบาล) โดยตรง
- ตัวอย่าง: หากเลขท้าย 2 ตัวออก 89 ก็ถือว่า 2 ตัวล่าง = 89
5. วิ่งบน-วิ่งล่าง
- วิ่งบน: ผู้เล่นเลือก “1 ตัวเลข” แล้วลุ้นให้เลขตัวนั้นไปปรากฏในเลข 3 ตัวบน (หรือ 2 ตัวบน) ของรางวัลที่ 1
- ตัวอย่าง: วิ่งบนเลข 4 หากรางวัล 3 ตัวบนคือ 456 ก็ถือว่าถูกรางวัล
- วิ่งล่าง: เลือก “1 ตัวเลข” ให้ไปปรากฏในเลข 2 ตัวล่าง (จากรางวัลเลขท้าย 2 ตัว)
- ตัวอย่าง: เลขท้าย 2 ตัวออก 89 ถ้าวิ่งล่างเลข 8 ก็ถูกรางวัลเช่นกัน
6. 3 ตัวล่าง (บางพื้นที่)
- ในการออกรางวัลรัฐบาล จะมีเลขรางวัล 3 ตัวล่างหลายชุด แต่การเล่นหวยใต้ดินส่วนใหญ่ “3 ตัวล่าง” อาจจะอิงเลขจากรางวัล 3 ตัวท้าย (ที่รัฐออก 3 ตัวหน้า และ 3 ตัวท้าย)
- อย่างไรก็ตาม แต่ละเจ้ามืออาจกำหนดกติกาต่างกัน เช่น เอาเลข 3 ตัวท้ายชุดที่ 1 หรือ 2 มาใช้ หรือบางรายอาจไม่เปิดให้แทง 3 ตัวล่าง
7. เลขกลับ (เลขกลับบน/ล่าง)
- ผู้เล่นสามารถระบุให้ “เจ้ามือกลับเลข” ให้ด้วย (เลขสลับตำแหน่ง) เช่น 56 กลับได้เป็น 65 (สำหรับ 2 ตัว) หรือ 456 กลับได้หลายแบบ (456, 465, 546, 564, 645, 654) หากไม่ได้ซื้อโต๊ด ก็อาจใช้วิธีซื้อเลขกลับทีละชุด
- ช่วยให้สะดวก ไม่ต้องซื้อเลขทีละแบบให้ยุ่งยาก แต่อาจมีค่าใช้จ่ายเพิ่ม
หวยใต้ดิน เล่นแบบไหน ทำไมถึงได้รับความนิยม
- อัตราจ่ายสูงกว่าสลากกินแบ่ง
- เจ้ามือหวยใต้ดินบางรายให้เรตจ่ายมากกว่าการถูกรางวัลเลขท้ายของรัฐบาล เช่น ถ้าถูกเลขท้าย 2 ตัว ได้บาทละ 60-70 หรือมากกว่านั้นขึ้นอยู่กับเจ้ามือ
- ทำให้ผู้เล่นมองว่าคุ้มค่ากว่า “ลงทุน” ซื้อเลขท้าย 2 ตัวกับสลากกินแบ่งรัฐบาล
- ความยืดหยุ่นในการเลือกเลข
- ผู้เล่นสามารถระบุเลขใดก็ได้ และวางเดิมพันเท่าไรก็ได้ตามใจชอบ ไม่มีข้อจำกัดเรื่องเลขอั้น หรือราคาเกิน 80 บาท
- เจ้ามือบางรายยังอนุญาตให้เล่น “เลขวิ่ง” “เลขโต๊ด” หรือเลขรูปแบบอื่น ๆ ตามความถนัด
- เข้าถึงง่าย ไม่ต้องซื้อสลากเป็นใบ
- ผู้เล่นบางคนอาจไม่สะดวกออกไปหาสลากกินแบ่ง หรือหาเลขที่ต้องการไม่ได้
- การมีเจ้ามือหวยใต้ดินในชุมชนหรือในกลุ่มออนไลน์จึงเข้าถึงได้ง่ายกว่าในบางกรณี